พืช+สัตว์+เครื่องดนตรี+อาหารประจำชาติประจำชาติในยุโรปตะวันตก

[Volwar]

เบลเยี่ยม ไม่มี

ฝรั่งเศส-ดอกไม้ประจำชาติ-ดอกไอริส


เนเธอร์แลนด์-ดอกไม้ประจำชาติ-ทิวลิป (ไม่เป็นทางการ)


เยอรมนี-ดอกไม้ประจำชาติ-ดอกคอร์น


ต้นไม้ประจำชาติ-โอ๊ค


ลักเซมเบิร์ก ไม่มี

อ้างอิง
de.wikipedia.org
en.wikipedia.org

[Vampire]

เยอรมนี-ดอกคอร์น

สวยแปลกตาดีแถมสีเย็นตาอีกด้วย

[Volwar]

อ้างอิง en.wikipedia.org

[Volwar]

เบลเยียม-สิงโต


นกประจำชาติ-นกเครสเทล


ฝรั่งเศส-สัตว์และนกประจำชาติ-ไก่ครัลลิกุสเตอร์


เนเธอร์แลนด์-สิงโต


เยอรมนี-สัตว์ประจำชาตินกอินทรีดำ


นกประจำชาติ-อินทรีหางขาว


ลักเซมเบิร์ก-สิงโต


นกประจำชาติ-นกหงอนทอง


จาก
en.wikipedia.org

[Vampire]

ชอบนกอินทรีดำ(ใช่ป่าวอะ) เท่ดี

[Volwar]

เบลเยี่ยม ไม่มี

ฝรั่งเศส ไม่มี


เนเธอร์แลนด์-ซอ
ซอมีการกล่าวไว้เมื่อ 3,000 ปี ก่อน ค.ศ. ในตำนานฮินดูแล้วก็แพร่หลายไปยังเอเชียกลาง จีน ยุโรป ซอเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นโดยการสี เครื่องดนตรี จำพวกซอได้แก่ ไวโอลิน


เยอรมนี-รัฐบาเยิร์น (อังกฤษเรียกบาวาเรีย)-พิณตั้งโต๊ะ
พบได้ที่สโลวีเนีย ออสเตรีย ฮังการี ทางเหนือของโครเอเชีย ทางใต้ของเยอรมนี อัลไพน์ของยุโรป เครื่องดนตรีประเภทพิณตั้งโต๊ะได้แก่ กู่เจิงของจีน

ลักเซมเบิร์ก ไม่มี

จาก
en.wikipedia.org
www.youtube.com

[*!!~AlFeiLai~!!*]

เยอรมณี เป็น พิณ เหลือเชื่อ O[]O!!

[Volwar]

เบลเยี่ยม

หอยแมลงภู่มันฝรั่งทอด
เป็นอาหารยอดนิยมที่ประกอบด้วยหอยแมลงภู่และมันฝรั่งทอด นิยมทานทางตอนเหนือของฝรั่งเศสและประเทศเบลเยียม

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำชาติ- มี 2 อย่าง


1. เจนิเวอร์
เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำชาติเนเธอร์แลนด์ด้วย ทำขึ้นในศตวรรษที่ 16 ขายในรูปแบบยาเป็นครั้งแรก


2. เบียร์
เบียร์ เป็นเมรัยหลาย ๆ รูปแบบที่ผ่านกระบวนการหมัก ผลิตภัณฑ์พวกธัญพืช ประวัติศาสตร์ของเบียร์นั้นมีมายาวนาน เบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอลชนิดแรกของโลก เริ่มผลิต 6,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยชนชาติ บาบิโลเนียน เบียร์เป็นที่รู้จักในสมัยอียิปต์โบราณและเมโสโปเตเมีย และมีหลักฐานย้อนไปยาวนานถึง 4,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยใช้ข้าวบาร์เลย์ เป็นวัตถุดิบ ในราว 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ทีการผสมพืชอีกหนึ่งชนิดเข้าไปคือ ฮอปส์ ทำให้มีกลิ่นหอม, รสชาติขม และ สามารถรักษาคุณภาพของเบียร์ให้เก็บได้นานขึ้น แต่เบียร์เหล่านี้แตกต่างจากเบียร์ในปัจจุบัน และเนื่องจากเครื่องปรุงและกรรมวิธีในการผลิตเบียร์แตกต่างกันไปตามสถานที่ ลักษณะของเบียร์ (ชนิดของเบียร์, รสชาติ, และสี) จึงมีความแตกต่างกันได้มาก

ฝรั่งเศส

เครป
เป็นแผ่นแพนเค้กบางๆ มีต้นกำเนิดมาจากมณฑลบรีตันทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส ในปัจจุบันเครปแพร่หลายไปในประเทศต่างๆ รวมถึงไทยด้วย

หม้อบนไฟ
มีชื่อภาษาฝรั่งเศสว่า pot-au-feu แปลว่า หม้อบนไฟ

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำชาติ- มี 3 อย่าง

1. บรั่นดี
บรั่นดีเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้จากากรกลั่นของการหมักน้ำผลไม้ต่างๆ หรือไวน์ต่างๆ เช่นองุ่น แอปเปิล แต่เมื่อผลิตจากผลไม้อื่นก็จะเรียกชื่อตามผลไม้นั้นๆ แต่ถ้าผลิตจากองุ่นก็จะเรียกบรั่นดี กรรมวิธีการผลิตโดยการหมักน้ำองุ่นแล้วนำมาต้มกลั่น แล้วนำไปบ่มต่อในถังโอ๊คซึ่งจะทำให้แอลกอฮอล์ที่มีอยู่เดิมลดลง และเมื่อยิ่งบ่มไว้นานแอลกอฮอล์ก็จะลดต่ำลงไปเรื่อยๆ บรั่นดีบางตัวเมื่อบ่มเกิน 50 ปีขึ้นไปจะมีแอลกอฮอล์ลดลงต่ำกว่า 40 ดีกรี และเมื่อบรรจุขวดก็จะมีแอลกอฮอล์เพียง 36 ดีกรี อันจะทำให้บรั่นดีนั้นมีความพิเศษเฉพาะ และมีความสุขุม นุ่มนวลจากการเก็บบ่มอันยาวนานนั่นเอง ชื่อบรั่นดีนั้นจะใช้เรียกสำหรับเหล้าที่ผลิตจากองุ่น บรั่นดีอาจจะผลิตจากผลไม้อื่นๆก็ได้ซึ่งก็จะใช้ชื่อผลไม้นั้นเรียกแตกต่างกันไป บรั่นดีหลายๆ ตัว ไม่ได้มีการหมักบ่มในถังโอ๊ค อันเนื่องจากลักษณะเฉพาะตัว เช่นสีใส รวมถึงบรั่นดีบางชนิดที่ไม่ได้ผลิตจากองุ่นที่ต้องการคงไว้ซึ่งรสชาติ กลิ่น อโรมาของตัวเอง ในบางประเทศ เช่นประเทศฝรั่งเศส ในแคว้นคอนยัค (Cognac) อมายัค (Armagnac) และ ควาลวาดอส (Calvados) ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญในการผลิตบรั่นดีมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งบรั่นดีสามารถผลิตที่ไหนในโลกตราบใดเท่าที่ใช้องุ่นเป็นวัตถุดิบ เช่นที่ Douro valley ในประเทศโปรตุเกส Jerez de la Frontera ในประเทศสเปน

2. คอนญัก
คอนญัก (Cognac) คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้มาจากการกลั่นเหล้าองุ่นที่หมักจนได้ที่ เก็บไว้ใน ถังที่ทำด้วยไม้โอ๊คเพื่อให้เหล้ามีอายุเก่าแล้วจึงนำมาบรรจุขวด และมาจากในเขตชารองต์ แคว้นปัวตู-ชารองต์ ประเทศฝรั่งเศส

3. แชมเปญ
คือไวน์ชนิดมีแก๊ส หรือ sparkling wine เรียกแชมเปญตามชื่อแคว้น Champagne ของฝรั่งเศส อันเป็นที่ซึ่งผลิตไวน์ประเภทนี้ออกมา ทั้งนี้ต้องผลิตจากองุ่น 1 ใน 3 พันธ์คือ Pinot Noir, Pinot Meunier และ Chardonnay ต่างไปจากนั้นจัดเป็นสปาร์กลิง ไวน์ ธรรมดา

เนเธอแลนด์

อาหารประจำชาติ-ฮัตสปอต
เป็นอาหารที่ปรุงด้วยการต้มและป่นมันฝรั่ง แครอทและหัวหอม

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำชาติ-เจนิเวอร์ (เป็นทั้งของเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์)


เยอรมนี

เนื้อวัวเปรี้ยว
สมัยแรกเริ่มทำมาจากเนื้อม้า ปัจจุบันทำด้วยเนื้อวัว แต่ก็สามารถใช้เนื้ออื่นๆ มาทำได้เช่นกัน เช่น เนื้อแกะ เนื้อหมู เนื้อม้า เนื้อกวาง

Currywurst
เป็นอาหารเยอรมันที่ทำด้วยไส้กรอกกับซอสผงกะหรี่

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำชาติ- Schnapps
เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากผลไม้เป็นเครื่องดื่มประจำชาติเของชาติต่าง ๆ

จาก
en.wikipedia.org
th.wikipedia.org

[*!!~AlFeiLai~!!*]

เยอะจริงๆ O[]O!!

[Volwar]

1. เบลเยี่ยม : België (ภาษาดัตช์) Belgique (ภาษาฝรั่งเศส-แบ็ลชีก) Belgien (ภาษาเยอรมนี)
ความหมาย : อาจมาจากภาษาเซลติก มีความหมายว่า ถุง แองโกแซกซอน หมายถึงขาวหรือแสงสว่าง หรือภาษาสลาฟหมายถึงสีขาว Belgium มีที่มาจาก Gallia Belgica ซึ่งเป็นจังหวัดในยุคโรมัน มีกลุ่มชาว Belgae อยู่อาศัย

2. ฝรั่งเศส : France ฟร็องก์
ความหมาย : คำว่า ฝรั่งเศส (France) มาจากภาษาละติน Francia ซึ่งแปลตามตรงว่า ดินแดนแห่งแฟรงค์ (Frankland) และมีหลายทฤษฎีที่สันนิษฐานถึงที่มาของคำว่า แฟรงค์ (Franks) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคำในภาษาโปรโต-เยอรมัน Frankon ซึ่งแปลว่า หลาว หอก หรือทวนซึ่งเป็นอาวุธของพวกแฟรงค์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ฟรานซิสกา (Francisca)อีกทฤษฎีหนึ่งตามหลักนิรุกติศาสตร์คือในภาษาเยอรมันโบราณ คำว่า แฟรงค์ แปลว่า อิสระ ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นทาส โดยคำดังกล่าวยังคงปรากฏในภาษาฝรั่งเศสปัจจุบันในรูป ฟรังก์ (Franc) ซึ่งเป็นสกุลเงินของประเทศฝรั่งเศสจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสกุลเงินยูโรในปี พ.ศ. 2545 ในปัจจุบันประเทศเยอรมนียังเรียกประเทศฝรั่งเศสว่า Frankreich ซึ่งแปลว่า อาณาจักรแห่งแฟรงค์ อีกด้วย

3. เนเธอร์แลนด์ : Nederland
ความหมาย : แปลว่าดินแดนต่ำ เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล

4. เยอรมนี : Deutschlan ดอยช์แลนด์
ความหมาย : ดินแดนแห่งประชาชน

5. ลักเซมเบิร์ก : Lëtzebuerg เลิทเซบวร์ก
ความหมาย : ปราสาทเล็ก

จาก
en.wikipedia.org
th.wikipedia.org

*** ช่วงนี้วิกิพีเดียลบ คำไทยสะกดตัวออกเสียง ชื่อประเทศต่างๆ ตอนนี้จึงไม่สามารถทราบได้อีกว่าชื่อประเทศเลห่านี้คนประเทศนั้นจะออกเสียงกันอย่างไร

[Volwar]

ประเทศเบลเยียมมี 11 เขตการปกครอง คือ 10 เขต 1เขตการปกครองพิเศษ
เขตฟลามส์
1. แอนต์เวิร์ป (Antwerpen)
2. ฟลานเดอร์ตะวันออก (Oost-Vlaanderen)
3. ฟลามส์บราบานต์ (Vlaams Brabant)
4. ลิมเบิร์ก (Limburg)
5. ฟลานเดอร์ตะวันตก (West-Vlaanderen)
6. กรุงบรัสเซลส์ (เป็นเขตปกครองพิเศษ)

เขตวัลลูน
7. เอโน (Hainaut)
8. ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg)
9. นามูร์ (Namur)
10. วัลลูนบราบานต์ (Brabant wallon)
11. กรุงบรัสเซลส์


ฝรั่งเศส มีเขตการปกครอง 22 เขต คือ 22 แคว้น
1. อาลซัส (Alsace)
2. อากีแตน (Aquitaine)
3. โอแวร์ญ (Auvergne)
4. บัส-นอร์ม็องดี (Basse-Normandie)
5. บูร์กอญ (Bourgogne)
6. เบรอตาญ (Bretagne)
7. ซ็องทร์ (Centre)
8. ช็องปาญาร์แดน (Champagne-Ardenne)
9. กอร์ส (คอร์ซิกา) (Corse)
10. ฟร็องช์-กงเต (Franche-Comté)
11. โอต-นอร์ม็องดี (Haute-Normandie)
12. อีล-เดอ-ฟร็องส์ (ปารีสตั้งอยู่ที่แคว้นนี้) (Île-de-France)
13. ล็องก์ด็อก-รูซียง (Languedoc-Roussillon)
14. ลีมูแซ็ง (Limousin)
15. ลอแรน (Lorraine)
16. มีดี-ปีเรเน (Midi-Pyrénées)
17. นอร์-ปา-เดอ-กาแล (Nord-Pas-de-Calais)
18. เปอีเดอลาลัวร์ (Pays de la Loire)
19. ปีการ์ดี (Picardie)
20. ปัวตู-ชาร็องต์ (Poitou-Charentes)
21. พรอว็องซาลป์โกตดาซูร์ (Provence-Alpes-Côte d'Azur)
22. โรนาลป์ (Rhône-Alpes)


เนเธอร์แลนด์ มี 12 เขตการปกครอง คือ 12 จังหวัด
1. เดรนธ์
2. เฟลโวลันด์
3. ฟรีสแลนด์
4. เกลเดอร์แลนด์
5. โกรนิงเงิน
6. ลิมเบิร์ก
7. นอร์ทบราบันต์
8. นอร์ทฮอลแลนด์
9. โอเวอร์เอเซิล
10. เซาท์ฮอลแลนด์
11. อูเทรคท์
12. เซแลนด์


เยอรมนี มี 16 เขตการปกครอง คือ 16 รัฐ
1. บาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก
2. บาเยิร์น (บาวาเรีย)
3. เบอร์ลิน (นครรัฐ)
4. บรานเดนบวร์ก
5. เบรเมน (นครรัฐ)
6. ฮัมบูร์ก (นครรัฐ)
7. เฮสส์
8. เมคเลนบูร์ก-ฟอร์พอมเมิร์น
9. นีเดอร์ซัคเซ่น
10. นอร์ดไรน์-เวสต์ฟาเลน
11. ไรน์ลันด์-พฟาลซ์
12. ซาร์ลันด์
13. ซัคเซ่น (แซกโซนี)
14. ซัคเซ่น-อันฮัลต์
15. ชเลสวิก-โฮลชไตน์
16. ทูริงเง่น


ลักเซมเบิร์ก มี 3 เขตกาปกครอง คือ 3 เขต
1. เขตเดเคริช
2. เขตเกรเวนมาเชอร์
3. เขตลักเซมเบิร์ก

จาก
en.wikipedia.org
th.wikipedia.org

[Volwar]

ยุโรปตะวันตกประเทศที่ติดทะเลมี 4 ประเทศ จาก 5 ประเทศ


เบลเยี่ยม
ภูมิศาสตร์ทางทะเล : ทิศเหนือจรดทะเลหนือ สภาอากาศชายทะเลมีลักษณะไม่ชื้นนัก
ประวัติศาสตร์ทางทะเล : เมืองออสเทนด์แต่เดิมเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลเหนือ และเปลี่ยนสถานะเป็นเมืองในปี ค.ศ. 1265 เมื่อมีการสร้างตลาดและศุนย์การค้าตลาด ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของเบลเยียม
แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล : เมืองออสเทนด์ น๊อคเก ฯลฯ


ฝรั่งเศส
ภูมิศาสตร์ทางทะเล : ทิศเหนือจรดช่องแคบอังกฤษ ทิศตะวันตกจรดอ่าวบิสเคย์ ทิศใต้จรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ประวัติศาสตร์ทางทะเล : วัดมองแซงต์มิเชล วัดคาทอลิกบนเกาะ ก่อนที่จะมีการสถาปนาราชวงศ์แรกของฝรั่งเศสขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 เกาะนี้เคยถูกเรียกว่า มงตงบ์ (Mont Tombe) และตามตำนาน วิหารที่อยู่บนเกาะนี้ถูกสร้างโดยการแนะนำของเทวดามีแชล (มิคาเอล/ไมเคิล) ที่ได้เข้าฝันนักบุญโอแบร์ บิชอปแห่งมาฟร็องช์เมื่อปี พ.ศ. 1251 แต่เขาก็มิได้ปฏิบัติตาม เนื่องจากนึกว่าปีศาจได้มาเข้าฝัน เขาจึงได้เพิกเฉยไป จนมาถึงการฝันครั้งที่ 3 มีแชลได้ใช้นิ้วของเขาจิ้มที่หัวของโอแบร์ และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็ได้ตะลึงว่ามีรูอยู่บนหัวจริง ๆ จากนั้นมาเขาจึงตัดสินใจสร้างวิหารบนยอดเขา
แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล : วัดมองแซงต์มิเชล ทะเลคามาเล เมืองมาแซย์ ฯลฯ


เนเธอร์แลนด์
ภูมิศาสตร์ทางทะเล : เนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นที่ราบลุ่ม และพื้นที่ประมาณหนึ่งในสี่ของประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เนเธอร์แลนด์ได้ปรับพื้นที่โดยการสูบน้ำออกจากทะเลสาบและทางน้ำต่าง ๆ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ เนเธอร์แลนด์ได้สร้างเขื่อน ทางระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำจำนวนมาก ทิศเหนือของประเทศจรดทะเลหนือและทะเลวัดดเดน
ประวัติศาสตร์ทางทะเล : เป็นประเทศที่เดินเรือทางทะเลเก่งมาก ในอดีตมีชื่อฮอลันดา จนมีอาณานิคมครอบครองไว้มากมาย เช่น อินโดนีเซีย
แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล : เมืองอัมสเตอร์ดัม รอตเทอร์ดาม หาดScheveningen ฯลฯ


เยอรมนี
ภูมิศาสตร์ทางทะเล : ทิศเหนือจรดทะเลวัดดเดน ทะเลหนือและทะเลบอลติก
ประวัติศาสตร์ทางทะเล : ประเทศนี้มีการใช้เรือดำน้ำ U-Boat ในการทำสงครามโลกครั้งที่ 2
แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล : มีทะเลเหนือ ทะเลบอลติก ทะเลวัดเดนประเทศนี้ไม่เด่นเรื่องการท่องเที่ยวทางทะเลมากนัก

จาก
en.wikipedia.org
th.wikipedia.org
www.youtube.com

[*!!~AlFeiLai~!!*]

จะว่าไป เยอรมันเคยรวมเข้ากับปรัสเซียใช่มั้ยคะ
แล้วรัฐไหนเคยเป็นของปรัสเซียอะ =v=;;

[Volwar]

เบลเยี่ยม- บรัสเซลส์ Brussel
ความหมาย : จากภาษาดัชต์โบราณ แปลว่าบ้านในบึง
ประวัติ : เมืองบรัสเซลส์ เป็นเมืองที่เก่าแก่กว่าพันปี ในอดีตบรัสเซลส์เป็นเมืองเล็กๆ แล้วพัฒนามาเป็นเมืองใหญ่ๆ
สถานที่ท่องเที่ยว : แกรนด์พาเลซ, ปาส แสงกอนแน่น, สวน Heysel
แม่น้ำที่ไหลผ่าน : ไม่มี มีแต่คลอง Charleroi ที่ไหลผ่าน

ฝรั่งเศส-ปารีส Paris ปารีส
ความหมาย : มาจากชื่อชนเผ่าหนึ่งของโกลว่า “ปาริซี”
ประวัติ : เป็นชาวเมืองที่อาศัยในสมัยก่อนโรมัน โดยที่เมืองมีชื่อเดิมว่า "ลูเทเชีย"
สถานที่ท่องเที่ยว : หอไอเฟล, พิพิธภัณฑ์ลูฟว์, มูแรงรูจ, ประตูชัยแห่งชัยชนะ
แม่น้ำที่ไหลผ่าน : แม่น้ำแซน

เนเธอร์แลนด์-อัมสเตอร์ดัม Amsterdam อัมสเตอร์ดัม
ความหมาย : มาจากคำว่า “อัมสเตล” ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองนี้ กับคำว่า “ดัม” ที่แปลว่า เขื่อน ซึ่งหมายถึงเมืองเขื่อนริมแม่น้ำอัมสเตล
ประวัติ : เป็นเมืองที่ถือกำเนิดมาในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 13 มีพื้นที่เป็นเกาะมีคูล้อมรอบเมืองถึง 4 ชั้น ที่ถูกขุดเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ยาวรวมกันกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อใช้ในการคมนาคมและขนส่งสินค้า
สถานที่ท่องเที่ยว : พระราชวังหลวง, พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ, บ้านแอนแฟรงก์, พระราชวังหลวง, พิพะภัณฑ์ไรค์
แม่น้ำที่ไหลผ่าน : แม่น้ำอัมสเทล

เยอรมนี-เบอร์ลิน Berlin แบร์ลีน
ความหมาย : นั้นไม่ทราบแหล่งที่มา แต่อาจเกี่ยวข้องกับหน่วยคำภาษาโปลาเบียนเก่า berl-/birl- ซึ่งหมายถึง "หนองน้ำ"
ประวัติ : บอร์ลินได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ครั้งแรกเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยได้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรปรัสเซีย (ตั้งแต่ ค.ศ. 1701), จักรวรรดิเยอรมัน (ค.ศ. 1871-1918), สาธารณรัฐไวมาร์ (ค.ศ. 1919-1932) และจักรวรรดิที่สาม (ค.ศ. 1933-1945)
สถานที่ท่องเที่ยว : ประตูบรานเดนบวร์ก, กำแพงเบอร์ลิน, พิพิธภัณฑ์ชาร์ลี เช็คพ้อยส์, พระราชวังชาล็อตเทนเบิร์ก, อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ
แม่น้ำที่ไหลผ่าน : แม่น้ำชเปรและแม่น้ำฮาเฟิล

ลักเซมเบิร์ก-ลักเซมเบิร์ก Stad Lëtzebuerg
ความหมาย : ปราสาทเล็ก
ประวัติ : ราชรัฐลักเซมเบิร์กเป็นรัฐขนาดเล็ก มีประวัติความเป็นมาย้อนหลังมากกว่า 1,000 ปี เมื่อปี พ.ศ. 1506 เคานท์ซิเอกฟิลด์แห่งลักเซมเบิร์ก เคานท์แห่งอาร์เดนเนส และผู้ก่อตั้งราชวงศ์ลักเซมเบิร์กสร้างปราสาทในบริเวณเมืองหลวงของลักเซมเบิร์กในปัจจุบัน
สถานที่ท่องเที่ยว : โบสถ์ Cathedale Notre Dame, พระราชวัง Royal Palace of Duke & Duchess
แม่น้ำที่ไหลผ่าน : แม่น้ำ Alzette และ แม่น้ำ Pétrusse

จาก
en.wikiepdia.org
th.wikiepdia.org
www.bloggang.com
www.jidatravel.com
www.qetour.com
www.youtube.com

[Volwar]

เบลเยียม
สถานที่ท่องเที่ยว : ทะเลสาบบรัสเซลล์, มหาวิหารนักบุญบาโว, แกรนด์พาเลซ, สวนสาธารณะเจ้าชาย, ป้อมนโปเลียน ฯลฯ

ฝรั่งเศส
สถานที่ท่องเที่ยว : หอไอเฟล, ประตูชัยแห่งชัยชนะ, พิพิธภัณฑ์ลูฟว์, พระราชวังแวร์ซายส์, มูแรงรูจ, มหาวิหารนอเตอดาม, ประตูชัยแห่งออร็องฌ์, มหาวิหารอาเมียง, พระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง, มง-แซ็ง-มีแชล ฯลฯ

เนเธอร์แลนด์
สถานที่ท่องเที่ยว : กังหันลม, ทุ่งดอกทิวลิป, บ้านของแอน แฟรงก์, ป้อมนาซซอ, พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ, พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม ฯลฯ

เยอรมนี
สถานที่ท่องเที่ยว : พระราชวังซ็องซูซี, เมืองลือเบค, วังและอุทยานแห่งพอทสดัมและเบอร์ลิน, เกาะไรคชเนา, มหาวิหารอาเคิน, มหาวิหารโคโลญ, ป่าดำ, เมืองบัมแบร์ก ฯลฯ

ลักเซมเบิร์ก
สถานที่ท่องเที่ยว : ปราสาทบอร์น, ปราสาทเบิร์ก, อนุสาวรีย์แห่งมิลลิเนียม, มหาวิหารนอเตอดาม, โบสถ์นักบุญไมเคิล, พิพิธภัณฑ์ไวน์, พิพิธภัณฑ์ประวิตศาสตร์และศิลปะ, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ, ถนนเสรีภาพ

จาก
en.wikipedia.org
th.wikipedia.org
www.youtube.com

[Volwar]

เมืองหลวงในยุโรปตะวันตกที่มีพื้นที่ติดทะเลนั้น มีเพียง อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์เท่านั้น

อัมสเตอร์ดัม-เนเธอร์แลนด์
ภูมิศาสตร์ทางทะเล : ทะเลตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองหลวง ทะเลนี้คือทะเลสาบ Markermeer ความจริงเป็นทะเลที่เขาทำเขื่อน เพื่อป้องกันน้ำท่วม อัมสเตอร์ดัมเป็นที่ตั้งของปากแม่น้ำอัมสเทล มีชายหาดอยู่ทางชานเมือง
ประวัติศาสตร์ทางทะเล : เป็นเมืองท่าริมทะเลแห่งหนึ่ง ที่ต่ำกว่าน้ำทะเลทำให้ต้องมีการทำเขื่อนทางเหนือของประเทศจนเกิดทะเลสาบ ทะเลสาบเอเซลเมร์ โดยการสร้างเขื่อน Afsluitdijk ในปี ค.ศ. 1927-1933 และต่อมาเกิดทะเลสาบ Markermeer โดยการสร้างเขื่อน Houtribdijk ในปี ค.ศ. 1963-1975 และ อัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ในเขตทะเลสาบ Markermeer
แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล : ชายหาด Blijburg

สีฟ้าเข้มคือทะเลสาบ Markermeer ซึ่งมันคือทะเลที่ทำเขื่อนขึ้นจนเป็นทะเลสาบ

แถม เป็นน้อยที่หาด Blijburg ในอัมสเตอร์ดัม


จาก
en.wikipedia.org
th.wikipedia.org
www.youtube.com