HTR & Re.HTr Club Webboard
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ

5 posters

หน้า 2 จาก 2 Previous  1, 2

Go down

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Empty Re: วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ

ตั้งหัวข้อ by Tabutuba Wed Jun 29, 2011 8:38 pm

สวยมากมาย ปลาชิวน้อย
Tabutuba
Tabutuba
B Class
B Class

จำนวนข้อความ : 155
คะแนน : 195
คะแนนชื่อเสียง : 29
Join date : 07/01/2011
Age : 26
ที่อยู่ : kkw Band

ขึ้นไปข้างบน Go down

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Empty Re: วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ

ตั้งหัวข้อ by *!!~AlFeiLai~!!* Thu Jun 30, 2011 9:04 pm

ซิวน้อย ฮะๆ
ขวัญเรียกซะน่ารักเลย... =w=
*!!~AlFeiLai~!!*
*!!~AlFeiLai~!!*
B Class
B Class

จำนวนข้อความ : 265
คะแนน : 299
คะแนนชื่อเสียง : 21
Join date : 28/03/2010
Age : 28
ที่อยู่ : Thailand

https://twitter.com/spellsunnn

ขึ้นไปข้างบน Go down

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Empty Re: วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ

ตั้งหัวข้อ by *!!~AlFeiLai~!!* Wed Jul 13, 2011 1:54 pm

ดูจากปีที่พบแล้วถือว่าเพิ่งเจอไม่นานนะคะเนี่ย =w=ว
แสตมป์สวยอะ ถ้ามีคงไม่กล้าใช้ ฮะๆ
*!!~AlFeiLai~!!*
*!!~AlFeiLai~!!*
B Class
B Class

จำนวนข้อความ : 265
คะแนน : 299
คะแนนชื่อเสียง : 21
Join date : 28/03/2010
Age : 28
ที่อยู่ : Thailand

https://twitter.com/spellsunnn

ขึ้นไปข้างบน Go down

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Empty ดีบุก แร่ต้องห้ามในสมัยกรุงศรีอยุธยา

ตั้งหัวข้อ by Volwar Sun Aug 28, 2011 3:16 pm

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 15499
ภาพแร่ดีบุก
ประวัติดีบุกในไทย
ดีบุกสามารถพบได้ทุกภาคในประเทศไทย พบมากที่สุดในภาคใต้ ทวีปเอเชียเป็นแหล่งผลิตดีบุกมากที่สุดในโลก ได้แก่บริเวณ จีน เปรู บราซิล โบลิเวีย รัสเซีย ออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ฯลฯ และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบมากในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย ดีบุกเป็นแร่เศรษฐกิจที่สำคัญพบมามากในประเทศไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (ในอดีตดีบุกเป็นสินค้าต้องห้าม) ความเป็นมาของดีบุกในไทย สามารถนับย้อนไปจนถึงปี พ.ศ.2061 ในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ซึ่งไทยได้ทำสัญญาพระราชไมตรีกับโปรตุเกส โดยให้ตั้งห้างรับซื้อจากภาคใต้ ต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้มีการส่งดีบุกเป็นเครื่องราชบรรณาการ ไปถวายพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศส และในปี พ.ศ. 2228 ก็ได้ทำสัญญาให้ฝรั่งเศสค้าขายแร่ดีบุกที่ภูเก็ต และเมืองบริวารได้แต่เพียงผู้เดียว จากหลักฐานเหล่านี้ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ภูเก็ตอาจเป็นบริเวณที่มีการทำแร่ดีบุก เป็นแห่งแรกของเอเชียก็ว่าได้ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์มีการนำเอาเครื่องจักรกลมาช่วยในการทำเหมือง อีกทั้งยังเริ่มการขุดแร่ในทะเลในปี พ.ศ. 2450 โดยกัปตัน เอดวาร์ด ที ไมล์ ชาวออสเตรเลีย ได้นำเรือมาทำการขุดแร่ดีบุกเป็นครั้งแรก ของโลก ที่อ่าวทุ่งคา ทางด้านทิศใต้ของเกาะภูเก็ต นับเป็นการเปิดศักราชการทำเหมืองแร่ดีบุกสมัยใหม่ของไทย ผลผลิตแร่เพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ดีบุกกลายเป็นหนึ่งในสี่ของสินค้าส่งออกหลักของไทย นอกเหนือจากข้าว ไม้สักและยางพารา แต่ทั้งหมดส่งออก ในรูปแร่ดิบ ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 ไทยมีโรงถลุงแร่ดีบุกที่ทันสมัยแห่งแรกที่ภูเก็ต จึงมีการนำแร่มาถลุงเป็นโลหะก่อนที่จะส่งออก ราคาแร่ในช่วงนั้นสูงจูงใจให้มีการสำรวจหาแร่ดีบุกกันอย่างกว้างขวางและสามารถค้นพบแหล่งแร่แหล่งใหม่ ๆ ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออก แต่ผลผลิตส่วนใหญ่ยังคงมาจากภาคใต้เช่นเดิม กิจการเหมืองแร่ดีบุกเริ่มซบเซาเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ในปี พ.ศ. 2528 เนื่องจากประเทศผู้ผลิตแร่ดีบุกรายใหม่ คือ บราซิลและจีน เร่งผลิตแร่ออกขายในตลาดโลกมากจนล้นตลาด กองทุนมูลภัณฑ์ กันชนดีบุกระหว่างประเทศไม่อาจพยุงราคาแร่ต่อไปได้และต้องการแทรกแซงตลาดเมื่อ 24 ตุลาคม 2528 ทำให้ราคาแร่ในตลาดโลก ลดต่ำลงมากกว่าครึ่งภายในระยะเวลา 1 ปี เหมืองดีบุกต้องปิดกิจการลงเป็นจำนวนมาก จาก 626 เหมือง เหลือ 292 เหมือง ในปี 2529 และปัจจุบันเหลือเพียง 29 เหมือง จนต้องนำเข้าแร่จากต่างประเทศเพื่อป้อนโรงถลุงที่ภูเก็ต
วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 B7
แหล่งดีบุกในประเทศไทย
ภาคเหนือ-สามารถพบได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน
ภาคกลาง-สามารถพบได้ที่จังหวัดอุทัยธานี สุพรรณบุรี สุโขทัย
ภาคใต้-เป็นภาคที่สามารถพบดีบุกได้มากที่สุดจรดประเทศมาเลเซีย สามารถพบได้ที่จังหวัดระนอง ภูเก็ต พังงา ชุมพร ยะลา นราธิวาส สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง
ภาคตะวันตก-สามารถพบได้ที่จังหวัดตาก กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี เพชรบุรี
วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Sn%2C50
ประโยชน์ของดีบุก
ใช้ทำกระป๋อง ใช้ทำตะกั่วบัดกรี อุปกรณ์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ วิทยุโทรทัศน์ต่างๆ
วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 D85b9a1a
จาก
en.wikiepdia.org
th.wikipedia.org
www.bloggang.com
www.mne.eng.psu.ac.th
www.rmutphysics.com
www.sanook.com
www.school.net.th
www.supradit.com
Volwar
Volwar
Webmaster
Webmaster

จำนวนข้อความ : 572
คะแนน : 770
คะแนนชื่อเสียง : 14
Join date : 23/01/2010
Age : 30
ที่อยู่ : ถนนเจริญยาก ถนนไม่มีรถเมล์ กทม.

ขึ้นไปข้างบน Go down

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Empty ทับทิมสยาม ทับทิมดวงดาว ทับทิมคุณภาพดีอันดับต้นๆ ของโลก

ตั้งหัวข้อ by Volwar Fri Sep 02, 2011 10:33 pm

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Feat_ruby
ข้อมูลทับทิมสยาม
บันทึกที่เก่าแก่ที่สุดของการทำเหมืองทับทิมมาจากศรีลังกาประมาณเมื่อ 2,500 กว่าปีมาแล้ว ส่วนคนไทยเริ่มทำเหมืองทับทิมตั้งแต่เมื่อไรไม่ปรากฏแน่ชัด ทับทิมเป็นหนึ่งในมณีนพเก้าหรือนพรัตน์ (มณีแดง-คือทับทิมบริสุทธิ์ของดาวพระอาทิตย์) คาดว่ามณีนพเก้าแต่งขึ้นในสมัยช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนทับทิมที่มีชื่อเสียงของไทยนั้นคือ ทับทิมสยาม ซึ่งในปัจจุบันมีราคาสูงมาก เป็นที่สองรองจากทับทิมพม่า (พม่าเป็นชาติที่มีทับทิมมากที่สุดและคุณภาพดีที่สุด) ชาวต่างชาติเรียกทับทิมสยามว่า ทับทิมสตาร์ เคยมีแหล่งใหญ่อยู่ที่จันทบุรี ส่วนมากจะมีขนาดเล็ก เนื่องจากเมื่อเจียระไนแล้วมีขนาดเหลือไม่เกิน 1-3 กะรัต แต่ถ้าพบเม็ดละ 5 กะรัต สีสวย น้ำสวย ไร้ตำหนิ มีราคานับแสนบาท เม็ดใหญ่ที่เคยบันทึก 9 กะรัต ราคาเกือบล้าน (2531) ทับทิมจัดในตระกูลแร่คอรันดัม (ระดับความแข็งของโมล์เท่ากับ 9 รองจากเพชรมีความแข็งใกล้เคียงกับเพชรเลยล่ะ แถมราคาก็แพงมากที่สุดในบรรดาอัญมณีรองลงมาจากเพชร) มักมีตำหนิหรือเส้นแพรเหลือบเสมอ จึงหาที่น้ำบริสุทธิ์ยาก สีชมพูจนถึงแดงสดและแดงอมม่วง ลักษณะเด่นของทับทิมสยาม คือมีสีแดงคล้ำ ค่อนข้างมืดดำ บางทีอมม่วง น้ำตาล หรือส้ม บางทีมีสีเหมือนโกเมน แต่ที่มีสีแดงบริสุทธิ์ ก็มีเหมือนกัน โดยส่วนใหญ่ จะมีคุณภาพสีต่ำกว่า ทับทิมพม่าที่มีคุณภาพดีๆ ประเทศไทยเคยโดดเด่นในฐานะเป็นแหล่งขุดทับทิม แต่ปัจจุบัน ทับทิมสยามหายากกว่าทับทิมพม่าเสียอีก เหลือแต่ที่ยังเด่นคือ งานช่างอัญมณี ซึ่งประเทศผู้เป็นแหล่งขุด เช่น ไนจีเรีย แอฟริกาใต้ ฯลฯ ต้องมาเจียระไนที่ประเทศไทย
วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Ruby
จาก
th.answers.yahoo.com
th.wikipedia.org
www.bloggang.com
www.ngthai.com
Volwar
Volwar
Webmaster
Webmaster

จำนวนข้อความ : 572
คะแนน : 770
คะแนนชื่อเสียง : 14
Join date : 23/01/2010
Age : 30
ที่อยู่ : ถนนเจริญยาก ถนนไม่มีรถเมล์ กทม.

ขึ้นไปข้างบน Go down

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Empty ช้างไทยสัตว์ประจำชาติไทยที่กำลังสูญพันธุ์

ตั้งหัวข้อ by Volwar Sat Sep 03, 2011 8:16 pm

คลิปช้างเผือกที่พม่า

ประวัติ
คนไทยในอดีตรู้จักและผูกพันกับช้างมาช้านาน เนื่องจากช้างมีไว้ใช้ในการทำสงคราม มีงาที่สวยงาม ใช้ลากซุง หรือแม้กระทั่งการส่งช้างเป็นเครื่องบรรณาการ นอกจากนี้ยังมีช้างเผือกซึ่งถือกันมาแต่ในอดีตว่า ช้างเผือกมีศักดิ์สูงเทียบชั้นเจ้าฟ้า และสัตว์ที่นิยมนำมาเลี้ยงคู่กับช้างเผือก มี 2 ชนิด คือลิงเผือกและกาเผือก ถือกันว่าเป็นสัตว์คู่บุญของช้างเผือก จะช่วยป้องกันสิ่งอวมงคลที่จะมาสู่ช้างเผือกได้ และหากมีเหตุใดๆ เกิดขึ้นกับช้างเผือก จะเชื่อกันว่าเป็นลางร้าย ในอดีตชาวพม่า ชาวมอญ และชาวไทย เชื่อว่าหากพระมหากษัตริย์พระองค์ใดมีช้างเผือกแสดงว่าเป็นผู้มีบุญญาธิการสูงส่ง

ตำราพระคชศาสตร์กำหนดลักษณะสำคัญ 7 ประการของช้างมงคลไว้ว่า จะต้องประกอบด้วย

1. ตาขาว
2. เพดานปากขาว
3. เล็บขาว
4. ขนขาว
5. พื้นหนังขาวหรือสีอ่อนๆ ออกแดงคล้ายหม้อใหม่
6. ขนหางขาว
7. อัณฑโกสขาว หรือสีคล้ายหม้อใหม่

ช้างที่มีลักษณะทั้ง 7 ประการครบถ้วน เราเรียกว่า “ช้างสำคัญ” ส่วนช้างที่มีลักษณะมงคลไม่ครบ จะเรียกว่า “ช้าง
ประหลาด” หรือช้าง “สีประหลาด” และหากช้างมีหนังดำ มีงาลักษณะเหมือนปลีกล้วย และมีเล็บดำ จะเรียกว่า “ช้างเนียม” ซึ่งช้างทั้งสามประเภทนี้ ถือเป็นช้างคู่บารมีของพระมหากษัตริย์เท่านั้น ผู้ที่ครอบครองช้างประเภทใด จะต้องนำช้างนั้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นช้างทรงตามราชประเพณีที่ปฏิบัติกันมานาน

คลิปปัญหาตัดงาช้าง

งาช้างสิ่งมีค่าที่ต้องแลกกับชีวิตช้าง
ในอดีตจนถึงปัจจุบันงาช้างเป็นสินค้าต้องห้ามในประเทศไทย ในอดีตประเทศแถบแอฟริกาได้มีการตัดงาช้างขายแต่ทว่า จำนวนช้างแอฟริกาลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว จนต้องมีการอนุรักษ์ เมื่อมีงาช้างอยู่ รัฐบาลของประเทศในแถบแอฟริกาจะเผาทำลาย เนื่องจากว่าในอดีตมีการประมูลงาช้างที่ยึดได้ ส่งผลให้ผู้ว่างจ้างฆ่าช้างได้ฉวยโอกาสนี้ ในปัจจุบันมีการจับงาช้างจากต่างประเทศในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากคนไทยมีฝีมือการแกะสลักที่สวยงาม จับได้ถึงงาช้างแมมมอธที่สูญพันธุ์ไปแล้ว

จาก
หนังสือการ์ตูนความรู้เรื่อง พระศรีสุริโยทัย ของสำนักพิมพ์อีคิวพลัส
www.raorakprajaoyuhua.com
www.youutbe.com
Volwar
Volwar
Webmaster
Webmaster

จำนวนข้อความ : 572
คะแนน : 770
คะแนนชื่อเสียง : 14
Join date : 23/01/2010
Age : 30
ที่อยู่ : ถนนเจริญยาก ถนนไม่มีรถเมล์ กทม.

ขึ้นไปข้างบน Go down

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 Empty รังนกน้ำลายนกแสนอร่อย

ตั้งหัวข้อ by Volwar Mon Sep 19, 2011 7:49 pm

วัฒนธรรมไทยเเละชาวไทยในต่างประเทศ - Page 2 -00
ภาพรังนก
ข้อมูลทั่วไปของรังนก
รังนก ทำมาจากน้ำลาย ของนกนางแอ่น ซึ่งสำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็งมีรูปร่างคล้ายกับรังนก น้ำลายของนกนางแอ่นที่สำรอกออกมาครั้งแรก จะมีสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งเรียกกันว่า รังนกขาว จัดได้ว่าเป็นรังนกที่มีคุณภาพดีที่สุด ในด้านเศรษฐกิจ รังนกแอ่นกินรังถือเป็นสินค้าที่ราคาแพงมากและหาได้ยาก จนได้รับฉายาว่า คาร์เวียร์แห่งโลกตะวันออก หรือ ทองคำขาว (White gold) สำหรับในเมืองไทยนั้น มีนกนางแอ่นสามชนิดด้วยกัน คือ นกแอ่นกินรัง นกแอ่นกินรังตะโพกขาว และนกแอ่นหางสี่เหลี่ยมหรือนกแอ่นรังดำ นกนางแอ่นสองชนิดแรกนั้น จะให้รังนกสีขาว ส่วนชนิดหลัง จะให้รังสีดำ โดยที่รังจะมีขนนกเป็นส่วนผสมด้วย แต่ทั้งสามชนิดนั้นสามารถใช้รับประทานได้

คลิปเกาะรังนก (เกาะง่าม) จังหวัดชุมพร
ประวัติรังนก
มนุษย์เริ่มรู้จักการกินรังนกนางแอ่นครั้งแรกในราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-907 ถ้าเทียบกับประเทศไทยก็คงได้สมัยก่อนสุโขทัย มีอาณาจักรทวารดี หริภุญชัย ศรีวิชัย) เชื่อกันว่า รังนกนางแอ่น ได้ถูกนำมาจาก มณฑลหนานหยาง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีนโดยชาวประมงจีนนำมาถวายแด่ฮ่องเต้ จึงถูกเรียกว่าเป็นอาหารของฮ่องเต้ ตั้งแต่นั้นมา รังนกนางแอ่นจึงนิยมบริโภคแพร่หลายในราชสำนักและบรรดาข้าราชบริวารที่มีรายได้สูง จึงเป็นเหตุให้รังนกนางแอ่นมีราคาสูง จวบจนกระทั้งการล่มสลายของการปกครองจักรวรรดิจีน ด้วยมีความเชื่อว่ามีรังที่สร้างมาจากน้ำลายของนกนางแอ่น สรรพคุณเป็นยาบำรุงชั้นเยี่ยมและรักษาโรคได้สารพัด โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ ในสมัยในช่วงราชวงศ์หมิงตอนปลาย ได้ปรากฏว่า มีแพทย์เขียนใบสั่งยา โดยมีรังนกเป็นส่วนผสม โดยเชื่อว่า รังนกสามารถรักษาโรคทางเดินหายใจ ช่วยบำรุงสุขภาพเด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรงได้ดี การบริโภครังนกนางแอ่นจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของชาวจีน และเชื่อกันว่าคนจีน คือผู้ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมการกินรังนกให้กับคนชาติอื่นๆ รวมทั้งประเทศไทยซึ่งมีหลักฐานเรื่องรังนกมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในกรุงศรีอยุธยานั้นยังมีส่วยรังนกด้วย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายร์มหาราชมีการขายรังนกให้กับประเทศจีน และในสมัยของพระองค์เองชาวฮอลันดา (เนเธอร์แลนด์) ได้สิทธิผูกขาดรังนก นอกจากนี้ในปัจจุบันคำขวัญของจังหวัดชุมพรได้กล่าวถึงรังนกไว้ว่า

“ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก”

คลิปเกาะสี่ เกาะห้า เป็นหมู่เกาะหินปูนอยู่ในทะเลสาบสงขลา
ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง

จาก
th.wikiepdia.org
isc.ru.ac.th
swiftlet-nest.blogspot.com
vichakarn.triamudom.ac.th
www.marketingoemoffice.com
www.oknation.net
www.vcharkarn.com
www.youtube.com
คลิปวัดช่องลมหรือวัดสุทธิวาตวราราม จังหวัดสมุทรสาคร มีนกนางแอ่นมากมาย
Volwar
Volwar
Webmaster
Webmaster

จำนวนข้อความ : 572
คะแนน : 770
คะแนนชื่อเสียง : 14
Join date : 23/01/2010
Age : 30
ที่อยู่ : ถนนเจริญยาก ถนนไม่มีรถเมล์ กทม.

ขึ้นไปข้างบน Go down

หน้า 2 จาก 2 Previous  1, 2

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ