26 เมษายน วันเกิดครบ226ปีของJohn James Audubon

[IceDraGon]

26 เมษายน วันเกิดครบ226ปีของJohn James Audubon



เว็บไซต์ google ตอนนี้ แสดงภาพ Doodles เปลี่ยนไปอีกแล้ว ยังอยู่ใน

ธรรมชาติกันเช่นเคย เปลี่ยนจากรูปวิวจากครั้งที่แล้วมาเป็นรูปนกแทน เข้ากับช่วงวันคุ้มครองโลกจริงๆ

และถ้าคลิ๊กที่รูปก็จะเกิดคำค้น “John James Audubon” จิตรกรผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คลั่งไคล้กับการวาด

ภาพนกได้เหมือนจริง และเป็นนักธรรมชาติวิทยาอีกด้วย

John James Audubon เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1785 หรือครบรอบ 226 ปีมาแล้ว

นักจิตรกรผู้ที่สนใจเกี่ยวกับนก ธรรมชาติ ล่าสัตว์ และวาดภาพ เขาได้วาดภาพและเก็บรวมรวบราย

ละเอียดต่างๆ ของนกในทวีปอเมริกาเหนือมากมาย จนสามารถนำออกตีพิมพ์จำหน่ายจนมีชื่อเสียง เช่น

The Birds of America มีภาพนกที่เขาวาดมากมาย แต่กว่าจะวาดได้เยอะขนาดนี้ เขาก็ต้องฆ่านก

แล้วเอาซากมาเสียบกับลวดแหลมถึงจะละเลงพู่กันได้

จากhttp://www.imaicafe.com/2011/04/26/google-doodle-john-james-audubon/]


26 เมษยน สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงประกาศอิสรภาพของกรุงศรีอยุธยา ณ เมืองแครง

เมื่อปี พ.ศ. 2126 พระเจ้าอังวะเป็นกบฎ เนื่องจากไม่พอใจทางกรุงหงสาวดีอยู่หลายประการ จึงแข็งเมืองพร้อมกับ

เกลี้ยกล่อมเจ้าไทยใหญ่อีกหลายเมืองให้แข็งเมืองด้วย พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงจึงยกทัพหลวงไปปราบ ในการณ์นี้ได้สั่งให้เจ้าเมืองแปร

เจ้าเมืองตองอูและเจ้าเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งทางกรุงศรีอยุธยาด้วย ให้ยกทัพไปช่วยทางไทย สมเด็จพระมหาธรรมราชาโปรดให้สมเด็จ

พระนเรศวรยกทัพไปแทน

สมเด็จพระนเรศวรยกทัพออกจากเมืองพิษณุโลก เมื่อวันแรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปีมะแม พ.ศ. 2126 พระองค์ยกทัพไทยไปช้าๆ

เพื่อให้การปราบปรามเจ้าอังวะเสร็จสิ้นไปก่อน ทำให้พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงแคลงใจว่า ทางไทยคงจะถูกพระเจ้าอังวะชักชวนให้เข้า

ด้วย จึงสั่งให้พระมหาอุปราชาคุมทัพรักษากรุงหงสาวดีไว้ถ้าทัพไทยยกมาถึงก็ให้ต้อนรับและหาทางกำจัดเสีย และพระองค์ได้สั่งให้

พระยามอญสองคน คือ พระยาเกียรติและพระยาราม ซึ่งมีสมัครพรรคพวกอยู่ที่เมืองแครงมาก และทำนองจะเป็นผู้คุ้นเคยกับสมเด็จพระ

นเรศวรมาแต่ก่อน ลงมาคอยต้อนรับทัพไทยที่เมืองแครง อันเป็นชายแดนติดต่อกับไทย พระมหาอุปราชาได้ตรัสสั่งเป็นความลับว่า เมื่อ

สมเด็จพระนเรศวรยกกองทัพขึ้นไป ถ้าพระมหาอุปราชายกเข้าตีด้านหน้าเมื่อใด ให้พระยาเกียรติและพระยารามคุมกำลังเข้าตีกระหนาบ

ทางด้านหลัง ช่วยกันกำจัดสมเด็จพระนเรศวรเสียให้จงได้ พระยาเกียรติกับพระยารามเมื่อไปถึงเมืองแครงแล้วได้ขยายความลับนี้แก่พระ

มหาเถรคันฉ่องผู้เป็นอาจารย์ของตน ทุกคนไม่มีใครเห็นดีด้วยกับแผนการของพระเจ้ากรุงหงสาวดี เพราะมหาเถรคันฉ่องกับสมเด็จพระ

นเรศวรเคยรู้จักชอบพอกันมาก่อน

กองทัพไทยยกมาถึงเมืองแครง เมื่อวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีวอก พ.ศ. 2127 โดยใช้เวลาเดินทัพเกือบสองเดือน

กองทัพไทยตั้งทัพอยู่นอกเมือง เจ้าเมืองแครงพร้อมทั้งพระยาเกียรติกับพระยารามได้มาเฝ้าฯ สมเด็จพระนเรศวร จากนั้นสมเด็จพระ

นเรศวรได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหาเถรคันฉ่องซึ่งคุ้นเคยกันดีมาก่อน พระมหาเถรคันฉ่องมีใจสงสารจึงกราบทูลถึงเรื่องการคิดร้ายของ

ทางกรุงหงสาวดี แล้วให้พระยาเกียรติกับพระยารามกราบทูลให้ทราบตามความเป็นจริง เมื่อพระองค์ได้ทราบความโดยตลอดแล้ว ก็

ทรงมีพระราชดำริเห็นว่าการเป็นอริราชศัตรูกับกรุงหงสาวดีนั้น ถึงกาลเวลาที่จะต้องเปิดเผยต่อไปแล้ว จึงได้มีรับสั่งให้เรียกประชุมแม่ทัพ

นายกอง กรมการเมือง เจ้าเมืองแครงรวมทั้งพระยาเกียรติพระยารามและทหารมอญมาประชุมพร้อมกัน แล้วนิมนต์พระมหาเถรคันฉ่อง

และพระสงฆ์มาเป็นสักขีพยาน ทรงแจ้งเรื่องให้คนทั้งปวงที่มาชุมนุม ณ ที่นั้นทราบว่า พระเจ้าหงสาวดีคิดประทุษร้ายต่อพระองค์ จาก

นั้นพระองค์ได้ทรงหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร (พระน้ำเต้าทองคำ) ประกาศแก่เทพยดาฟ้าดินว่า "ด้วยพระเจ้าหงสาวดี มิได้

อยู่ในครองสุจริตมิตรภาพขัตติยราชประเพณี เสียสามัคคีรสธรรม ประพฤติพาลทุจริต คิดจะทำอันตรายแก่เรา ตั้งแต่นี้ไป กรุง

ศรีอยุธยาขาดไมตรีกับกรุงหงสาวดีมิได้เป็นมิตรร่วมสุวรรณปฐพีเดียวกันดุจดังแต่ก่อนสืบไป"

จากhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A

[IceDraGon]

หลังจากที่ลงวันสำคัญที่ิ่เข้ากับบบรยากาศหนังฟอร์มยักษ์แห่งปีที่เพิ่งออกโรงไปเมื่อไม่นานมานี้ ในที่สุดก็ได้ฤกษ์มาลงต่อซะที สำหรับวันนี้จะพูดถึงเทศกาลต่างๆจากทั่วมุมโลกที่เพิ่งผ่านไปของเดือนเมษายน
เริ่มจากญี่ปุ่่นก่อนเลย


1-30 เม.ย. ระบำมิยะโก หรือระบำซากุระที่แสดงโดยนักแสดงญี่ปุ่น "ไมโกะ" ในเกียวโต

8 เม.ย. เทศกาลฮานะมัตสึริ (Hana Matsuri) หมายถึง วันประสูติของพระพุทธเจ้า หรือถ้าแปลตรงตัว จะแปลว่า เทศกาลดอกไม้(Hana แปลว่าดอกไม้) ตรงกับวันที่ 8 ของเดือน เป็นพิธีกรรมตั้งแต่สมัยโบราณที่มีการขอพรให้สุขภาพแข็งแรง มีชีวิตที่ดี และมีอาหารอุดมสมบูรณ์รวมไปถึงความสุขในชีวิตหลังความตาย เทศกาลนี้ตรงกับฤดูที่ดอกไม้กำลังบานสวยงามมีการจัดพิธีรำลึกถึงวันสำคัญนี้มีการเต้นรำกันข้ามวันข้ามคืนมีตัวเอกที่สำคัญเรียกว่า โอนิ(oni) ซึ่งเชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้าที่มาปรากฎกายในรูปของมารเพื่อให้พรที่ขอเป็นจริง และไฮไลท์ที่สำคัญของงานคือจะมีการต้มน้ำร้อนหม้อยักษ์กลางแจ้ง แล้วจุ่มซาคากิ(กิ่งของต้นโฮลี่)เพื่อประพรมน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้มาร่วมงาน เพื่อความเป็นสิริมงคลและมีสุขภาพแข็งแรงตลอดปี

1-15 เม.ย. เทศกาลโอะฮานามิ (Ohanami) เป็นเทศกาลชมดอกซากุระ จัดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน-กลางเดือนเมษายน เป็นงานที่สำคัญงานหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ชาวญี่ปุ่นจะพากันออกมาชมความงามของดอกซากุระ ซึ่งพร้อมใจกันบานสะพรั่งรับฤดูใบไม้ผลิเป็นสีชมพูตลอดทาง ก็แหม!!มีให้ดูกันแค่ปีละครั้งและที่สำคัญจะบานอยู่แค่อาทิตย์เดียว เมื่อถึงเวลากลีบของดอกซากุระก็จะร่วงโรยปลิวลงมาเหมือนกับหิมะช่างเป็นภาพที่งดงามชวนโรแมนติกยิ่งนัก(ว่ามะ?) ตามสถานที่ต่างๆที่เป็นจุดชมดอกซากุระบานก็จะมีร้านค้ามาตั้งขายของ ผู้คนหลั่งไหลกันมาเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจแต่ก็ไม่มีใครย่อท้อที่จะมาชมความงามกัน บางคณะมากันเป็นครอบครัวก็จะนำอาหารมาปูเสื่อนั่งทานกันนับว่าเป็นกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวไปอีกอย่างนึง คนญี่ปุ่นเวลามาชมดอกซากุระก็จะแสดงความรู้สึกออกมาอย่างเต็มที่พูดชมไม่ได้ขาดปากถึงความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างมาให้

14-15 เม.ย. เทศกาลทะคะยะมะ (Takayama Matsuri) ของศาลเจ้าฮิเอะในเมืองทะคะยะมะ พร้อมขบวนรถแห่ศาลเจ้าอันตระการตา

16-17 เม.ย. เทศกาลยะโยอิ (yayoi Matsuri) ที่ศาลเจ้าฟุตะระซัน ในเมืองนิกโก้ มีขบวนแห่ตกแต่งสวยงาม

จาก http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1016570#ixzz1LTiWhGbU

29 เมษายน วันโชวะ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของจักรพรรดิโชวะ ส่วนที่มาที่ไปอื่นๆขอเอามาจากบล็อกนี้แล้วกัน
"โชวะโนะฮินี้เค้าให้เราระลึกเรื่องราวที่ผ่านมาในสมัยโชวะ ตอนที่แพ้สงครามและนึกขอบคุณความพยายามของทุกคนที่ช่วยกันพัฒนาประเทศมาถึงขนาดนี้ ขอบคุณชีวิตทุกวันนี้ที่มีข้าวให้กินเมื่อเทียบกับความอดอยากหลังแพ้สงคราม..."
จาก http://hayashikisara.exteen.com/20090429/entry

[IceDraGon]

Golden Week ของญี่ปุ่น

เป็นช่วงเทศกาลหยุดยาวของญี่ปุ่น เทียบกับไทยก็คล้ายๆสงกรานต์ที่เราได้หยุดกันเยอะๆ

วันหยุดนักขัตฤกษ์ช่วง Golden Week ในปัจจุบัน ประกอบด้วย
วันที่ 29 เมษายน เป็น วันโชวะ (Shōwa-no-hi หรือ 昭和の日)
วันที่ 3 พฤษภาคม เป็น วันที่ระลึกรัฐธรรมนูญ (Kenpō kinenbi หรือ 憲法記念日)
วันที่ 4 พฤษภาคม เป็น วันแห่งสีเขียว (Midori-no-hi หรือ みどりの日)
วันที่ 5 พฤษภาคม เป็น วันเด็ก (Kodomo-no-hi หรือ 子供の日) ซึ่งก็คือ”วันเด็กผู้ชาย” ด้วย

จาก http://www.marumura.com/japanist_talkative/?id=1002

วันที่ 29 เมษายน วันโชวะ
เป็นวันพระราชสมภพของจักรพรรดิโชวะ

วันที่ 3 พฤษภาคม วันที่ระลึกรัฐธรรมนูญ

วันที่ 4 พฤษภาคม วันแห่งสีเขียว
เป็นวันอนุรักษ์ธรรมชาติ เห็นว่ากำหนดให้เป็นวันนี้เพราะไหนๆวันที่3กับ5ก็ได้หหยุดแล้ว เลยให้วันที่4ได้หยุดไปด้วยเลย

วันที่ 5 พฤษภาคม วันเด็ก
จริงๆเป็นวันเด็กที่ตั้งขึ้นมาโดยไม่มีการแยกเพศหญิงหรือชาย แต่เนื่องจากวันนี้เคยเป็นวันฉลองสำหรับเด็กผู้ชายมาก่อน คนญี่ปุ่นหลายคนก็ยังยึดตามธรรมเนียมเดิมอยู่คือประดับตุ๊กตานักรบเดือนห้าที่เรียกว่าโก๊ะกัทซึนิงเงียว และแขวนธงปลาคาร์ฟไว้หน้าบ้านอยู่ ตอนที่จะกำหนดวันเด็กนี้ก็เลือกกันระหว่างวันที่ 3 เดือน 3 ซึ่งเป็นวันเด็กผู้หญิง กับวันที่ 5 เดือน 5 ซึ่งเป็นวันเด็กผู้ชาย ผลปรากฏว่ารัฐบาลเลือกวันที่ 5 เดือน 5 เพราะอยากให้ฉลองวันเด็กกันได้ทั้งประเทศ ถ้าวันที่ 3 เดือน 3 นี่แถบอาโอโมริ, ฮอกไกโดยังหิมะตกอยู่ เลยกำหนดให้วันเด็กเป็นวันที่ 5 เดือน 5

ข้อมูลจาก http://hayashikisara.exteen.com/20090429/entry นะคะ กลัวโดนว่าอยู่เหมือนกันเพราะเรื่องวันเด็กนี่เราเรียบเรียงไม่ถูกเลยก็อปเขามาหมดเลย

[*!!~AlFeiLai~!!*]

อ๊ะ...มีวันแห่งสีเขียวด้วยเหรอเนี่ย *ืv*ื

[IceDraGon]

เทศกาลแมวในเบลเยี่ยม


ดูคลิปนี้ซะ แล้วทุกท่านจะเข้าใจความโมเอะ-w-



อยากจะบอกว่า...นี่คือคลิปแรกที่เอาลงยูทูปเลย ไม่รู้ทำไมครึ่งแรกของคลิปซับไทยหาย เอาเป็นว่าส่วนนั้นคือฮังการีอธิบายที่มาของเทศกาลแมวให้ออสเตรียฟังแล้วกัน รายละเอียดของเทศกาลนี้คือ...

เทศกาลแมวหรือ Kattenstoet เป็นงานพาเหรดที่จัดขึ้นที่เมืองอิแปร์ ประเทศเบลเยี่ยมทุก3ปี ในวันอาทิตย์ที่2ของเดือนพฤษภาคม เพื่อระลึกถึงเหล่าแมวที่ถูกฆ่าในยุคกลาง

ในสมัยนั้นคนที่นั่นเชื่อว่าแม่มดคือปีศาจร้าย และแมวก็คือสมุนของแม่มด แมวจึงต้องถูกกำจัดให้หมด โดยการโยนลงจากหอระฆังของโคลทฮอล์ ซึ่งเป็นตึกพานิชย์ที่สูงที่สุดในยุคกลาง ลงสู่จัตุรัสในเมืองเบื้องล่าง(กรุณาอย่าจินตนาการภาพขณะรับประทานอาหาร) ในปัจจุบัน งานนี้ก็จะทำคล้ายๆกัน แต่ไม่ได้โยนแมวจริงแล้ว แต่ตัวตลกจะโยนแมวปลอมลงมาจากตึกเดิมนี่แหละ จัตุรัสข้างล่างก็จะมีฝูงชนคอยรับแมวอยู่ ต่อจากนั้นก็จะจำลองเหตุการณ์เผาแม่มด

ส่วนเครื่องแต่งกายผู้ที่มาร่วมงานนั้น ก็จะแต่งให้เหมือนแมว(โมเอะ!) ไม่ก็แต่งให้เหมือนคนในยุคกลาง

แต่มีอีกตำนานเหมือนกันเล่าว่าแมวถูกนำมาใช้ประโยชน์อะไรสักอย่างที่โคลทฮอล์ หลังฤดูใบไม้ผลิแล้วแมวก็หมดประโยชน์เลยโยนทิ้งลงมา เหมือนเป็นการเริ่มปีใหม่และกำจัดสิ่งชั่วร้ายไปในตัวด้วย(สรุปว่าไม่ว่าจะเรื่องไหนก็บบอกว่าแมวเป็นสิ่งชั่วร้ายสินะ- -“)


(ตอนนี้เว็ปนี้เป็นเว็ปเดียวที่เป็นภาษาไทยที่่มีบทความเกี่ยวกับเทศกาลนี้ ภูมิใจไว้ซะชาวhtr หึหึหึ ใครจะหาข้อมูลก็ต้องมาดูที่นี่เท่านั้น เรียกคนเพิ่มได้แน่ๆ)

จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Kattenstoet
http://th.asiaonline.com/article?article=Kattenstoet อันนี้เว็ปแปลภาษา เรียบเรียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่

แถมรูปภาพงานด้วย






อันนี้ตัวตลกที่โยนแมว

[IceDraGon]

White Nights Festival - รัสเซีย

ถ้าจะแปลเป็นไทยก็คง...เทศกาลแห่งค่ำคืนสีขาว บางทีนี่อาจจะเป็นเทศกาลที่น่าสนใจที่สุดในยุโรปก็ได้ จัดที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในรัสเซีย

แต่เดิมเทศกาลนี้จัดแค่10วัน แต่เดี๋ยวนี้ยืดเป็น3เดือนแล้ว ตั้งแต่พฤษภาคมถึงกรกฎาคม เป็นงานสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดนตรีคลาสสิก บัลเล่ต์ และโอเปร่า ซึ่งที่เรียกว่าwhite nights ก็เพราะว่าในช่วงนี้เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กจะมีท้องฟ้าสีขาวตลอดเวลา แม้แต่เที่ยงคืนฟ้าก็ยังไม่มืด



ส่วนผู้ที่แสดงดนตรีคลาสสิก บัลเล่ต์ และโอเปร่านั้น ก็จะมีทั้งนักร้อง นักบัลเล่ต์ นักแสดง และนักดนตรีดังๆของรัสเซีัย รวมไปถึงดาราและคนดังๆระดับโลก และยังมีScarlet Sailsหรืองานฉลองเรือใบสีแดง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดในเทศกาลนี้ โดยผู้เข้าร่วมเมื่อปี2010มีทั้งหมด3ล้านคน(ปี2007มี1ล้านคน) เป็นการแล่นเรือกว่า10ลำในแม่น้ำเนวา



งานScarlet Sails เริ่มต้นครั้งแรกหลังจบสงครามโลกครั้งที่2 เมื่อโรงเรียนในเมืองเลนินกราดพากันฉลองวันสำเร็จการศึกษา โดยเรือสีแดงนี้มีที่มาจากหนังสือยอดนิยมในปี1922เรื่องScarlet Sails ในตอนแรกนั้นเรือนี้ได้ล่องผ่านEnglish EmbankmentและAdmiralty Embankment(2เป็นชื่อถนน2สายที่ตัดเลียบแม่น้ำเนวา่ทั้ง2ฝั่ง) ตรงไปสู่พระราชวังฤดูหนาว และในปัจจุบันก็กลายเป็นงานฉลองการจบการศึกษาของชาวรัสเซียที่ได้รับความนิยิมมากที่สุดเป็นประจำทุกปี

เทศกาลนี้ยังมีคาร์นิวัลด้วย งานคาร์นิวัลที่ใหญ่และได้รับความนิยมที่สุดจัดที่ปีเตอร์ฮอฟ เมืองเล็กๆแถบชานเมืองของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นักแสดงจะใส่เครื่องแต่งกายของคนในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช (1682-1725) และแคทเธอรีนมหาราช (1762-1796) และแสดงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น

จาก http://en.wikipedia.org/wiki/White_Nights_Festival

[*!!~AlFeiLai~!!*]

นี่ถ้ายังโยนแมวจริงๆ น่าสงสารแย่เลยอะ ;;w;;
-----------------------------
เจ๊ฮังโมเอะ เจ๊ฮังโมเอะะ !!! <3 *สครีม*
เฟลี่หูแมวน่ารักสุดๆ หูแมวบันไซ ~ xD

[IceDraGon]

^
^
ขอบใจมากที่เข้ามาอ่านเรื่อยๆนะ กลัวกระทู๊ร้างเหมือนกัน

_______________________________________

เข้าเนื้อหาเลยดีกว่า เมื่อวานนี้เป็นวันพ่อในประเทศแถบยุโรปนะ! (ทางนั้นจัดงานวันพ่อวันอาทิตย์ที่3ของเดือนมิถุนายน)


แต่ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ เลยไม่ได้แปล ช่วง10วันสุดท้ายของเดือนมิถุนานี้เราอยากแปลเทศกาลเดือนมิถุนาให้หมดๆไปเลยดีกว่า(หลังจากนี้จะลงวันละ1-2เรื่องแล้วนะ)
______________________________________________

Calcio Storico เทศกาลเตะบอลในอิตาลี

หากคุณกำลังเยี่ยมชมเมืองฟลอเรนซ์ในอิตาลีและต้องการเห็นวัฒนธรรมที่ไม่ซ้ำใครของที่นี่ Calcio Storico (ประวัติศาสตร์ฟุตบอล) ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว งานมีอีกชื่อหนึ่งว่าCalcio Fiorentino (Fiorentino คือการเรียกอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับเมืองฟลอเรนซ์) เป็นการผสมผสานระหว่างฟุตบอล รักบี้ และมวยปล้ำ หรืออาจมีการชกมวยด้วยหมัด

Calcio Storicoเป็นงานเฉลิมฉลองประจำปี จัดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1530 เมื่อชาวเมืองจัดการแข่งขันที่ Piazza Santa Croce เพื่อแสดงการดูถูกและล้อเลียนกองทัพของจักรวรรดิสเปนและจักรพรรดิชาร์ลสที่5แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ล้อมเมืองฟลอเรนซ์ในตอนนั้น(โดนล้อมแล้วยังจัดงานแข่งกีฬากันอีก ) ซึ่งตอนชาวเมืองเล่นฟุตบอลก็ใส่ชุดคนใช้เล่น เลยมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าcalcio in livrea(livrea แปลว่าเครื่องแบบคนใช้ แปลแล้วแปลอีกเพราะไม่แน่ใจก็ใช่คำนี้จริงๆ)

...ผิดมั้ยถ้าเราจะนึกภาพจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ดูชิบิตาเลียใส่เมดแล้วเตะบอล...ไม่สิ อย่าลืมว่ามันเป็นนการผสมผสานระหว่างฟุตบอล รักบี้ และมวย

เปล่าค่ะ ชุุดไม่ได้โมเอะแบบนั้นหรอก แต่เป็นแบบนี้



ในขณะที่การแข่งในปี1530นั้นโด่งดังจนจัดสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน แต่ความจริงการเล่นกีฬาชนิดนั้นในตอนนั้นไม่ใช่ครั้งแรกค่ะ เพราะชาวฟลอเร็นซ์เล่นไอ้แบบนั้นมาตั้งแต่ประมาณค.ศ.1400 แล้ว จนกระทั่งหยุดเล่นในปี1739 สองศตวรรษต่อมาในปี1930จึงได้มีการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ในฐานะกีฬาที่เล่นในงานเทศกาลประจำปี โดยสมัยนี้จะจัด3สัปดาห์ในเดือนมิถุนายน สถานที่จัดคือPiazza Santa Croceเหมือนเดิม

แถมท้ายนิดนึง Piazza Santa Croce คือจัตุรัสกลางเมืองฟลอเรนซ์ค่ะ


จาก http://www.eurofestivals.co.uk/festivals-in-italy/calcio-storico/

[IceDraGon]

หวัดดีค่ะ วันนี้วันที่21 มิถุนายน และในยุโรป วันนี้เป็นวันแรกของฤดูร้อน!!



โลโก้ต้อนรับฤดูร้อนของwww.google.co.uk

ช่วงฤดูร้อนยุโรปจะจัดงานดนตรีกัน วันนี้เลยจะนำเสนอเรื่องงานดนตรีในฤดูร้อนค่ะ

Florence Music Festival อิตาลี

จัดครั้งแรกในปี1937 เพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิตามความเชื่อของคนที่นั่นว่าฤดูใบไม้ผลิเริ่มต้นในวันที่1พฤษภาคม และมีแผนจะจัดทุก2ปี แต่หลังจัดแล้วปรากฏว่าประสบความสำเร็จมากจึงเปลี่ยนมาจัดทุกปี ปัจจุบันจัดในช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ฟลอเรนซ์เป็นเมืองที่มีกลิ่นอายความเป็นอิตาลีอยู่มาก นอกจากนี้ที่นี่ยังมีชื่อเสียงด้านโอเปร่า เพราะเป็นเมืองที่มีโรงละครโอเปร่าเมืองแรกของโลก

จากhttp://www.eurofestivals.co.uk/



Salzburg Festival ออสเตรีย

จัดที่เมืองซาลซ์บูร์ก เริ่มจัดครั้งแรกในปี1877 แต่เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาหลังสงครามโลกครั้งที่1 จนปัจจุบัน5สัปดาห์ของงานนี้กลายเป็นงานที่มีสีสันแห่งฤดูร้อนที่สุดในยุโรปเลยทีเดียว งานเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมไปจนเดือนสิงหาคมทั้งเดือน มีการแสดงกว่า170ชนิดและผู้ชมกว่าสี่ล้านคนเป็นประจำทุกปี แม้ว่าที่นี่จะเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ของโลกอย่างโมสาร์ท แต่สิ่งที่ทำให้งานประสบความสำเร็จกลับเป็นความมุ่งมั่นทุ่มเทที่จะถ่ายทอดงานดนตรีคลาสสิกอันเป็นมรดกของที่นี่



North Sea Jazz Festival เนเธอร์แลนด์

งานดนตรีแจ๊ซที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จัดในสัปดาห์ที่2ของเดือนกรกฎาคม ใน1สัปดาห์นี้มีผู้เข้าชมถึง70,000คน และผู้แสดงกว่า 1,300คน



Cheltenham Jazz Festival อังกฤษ

งานดนตรีแจ๊ซเหมือนกัน แต่จัดที่อังกฤษ



ลืมเครดิตเว้ยเฮ้ย! เพิ่งเห็นๆๆ www.eurofestivals.co.uk

[Volwar]

เห็นการ์ตูนตรงกูเกิ้ล นึกว่า เรื่อง Happy tree friend 55+

[*!!~AlFeiLai~!!*]

555 เหมือนพี่วออะ
นึกถึงตัวสีชมพู(หรือฟ้า?)
ที่มันทำตาหลุดลงน้ำส้ม 555 xD

[benzsarocha]

เพิ่งมาเห็นนะครับเนี่ย

ขอบคุณมากเลยครับ มีเยอะมากเลยที่ไม่เคยรู้ ได้ข้อมูลความรู้มาเพียบเลยครับ

[IceDraGon]

หวัดดีค่ะ ไม่ได้มาซะนานเลย มัวแต่ไปอ่านฟิค+เล่นเกม+อ่านไร้สาระนุกรม(หลายอย่างจังวุ้ย!)
แถมยังลืมลงตามที่สัญญาไว้อีกT_T งั้นวันนี้มาลงต่อเลยละกัน
__________________________________________

Christopher Street Day - เยอรมัน

ในปี1969 ที่Christopher Street ในนิวยอร์ก เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มเพศที่3และตำรวจ เพราะในสมัยนั้นเพศที่3ยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร 1ปีต่อมากลุ่มเพศที่3จึงได้จัดขบวนเพื่อประท้วงการกระทำที่ไม่เป็นธรรมในครั้งนั้น ส่วนประท้วงยังไงในเว็ปที่แปลมาก็ไม่ได้บอกไว้เหมือนกัน แต่น่าจะเป็นการแต่งตัวเพื่อแสดงจุดยืนของเพศที่3นั่นแหละ

10ปีต่อมา เบอร์ลินและเบร์เมนก็เป็นสองเมืองแรกในเยอรมันที่รับงานนี้มาจัดบ้าง ก่อนที่จะแพร่ต่อไปให้เมืองอื่นๆของเยอรมัน ซึ่งสมัยนี้ก็มีจัดกันทุกเมืองแล้ว โดยที่เมืองซูริกในสวิตเซอร์แลนด์ก็เอามาจัดบ้างเหมือนกัน(เมืองนี้ใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลัก)

แต่ถ้าเป็นเมืองที่จัดงานได้ใหญ่ที่สุดก็ต้องเบอร์ลินกับโคโลญ เบอร์ลินจะจัดวันเดียวกับวันต้นแบบในนิวยอร์ก นั่นคือ28มิถุนายนหรือวันหยุดที่ใกล้วันที่28ที่สุด ขณะที่โคโลญจัดวันอาทิตย์แรกของเดือนกรกฏาคม

งานนี้ถือเป็นงานเทศกาลของเพศที่3ที่ใหญ่ที่สุด ด้วยจำนวนคนเข้าร่วมกว่า5แสนคนทั้งเกย์และไม่เกย์เพื่อชมขบวนพาเหรด ในเบอร์ลินจะเดินกันตั้งแต่เที่ยงวัน จากสถานที่สำคัญต่างๆในเบอร์ลิน ไปจบที่Siegessäule(มันคืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิของเยอรมัน) ส่วนเสื้อผ้าของคนในขบวนก็จะออกแนวหลุดโลก บางคนก็ใส้กางเกงในตัวเดียวแล้วเพนท์ตัวเป็นสีๆทั้งตัว ใส่วิกสีฉุดฉาด เรียกได้ว่าไม่แคร์สื่อกันเลยทีเดียว

จาก http://www.eurofestivals.co.uk/festivals-in-germany/christopher-street-day/

ต่อมา มาดูรูปกันว่างานเป็นยังไง นี่เป็นรูปในเบอร์ลิน ของปีนี้ค่ะ(2011) เพิ่งผ่านมาไม่กี่วันเอง







เรื่องเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Siegessäule หรือเสาแห่งชัยชนะ



สิ่งนี้คือเครื่องยืนยันชัยชนะของปรัสเซียเหนือเดนมาร์ค ในสงครามเดนนิช-ปรัสเซียน(Danish-Prussian War) สงครามเริ่มเมื่อกุมภาพันธ์ในปี1864 และจบด้วยชัยชนะของปรัสเซียในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ออกแบบโดยไฮนริช สแทร็ค นอกจากนั้นระหว่างสร้าง ปรัสเซียยังรบชนะออสเตรียในสงครามออสโตร-ปรัสเซียน(Austro-Prussian War,1866) และฝรั่งเศสในสงครามฟรังโก-ปรัสเซียน(Franco-Prussian War,1870–1871) เมื่อถึงพิธีเปิดอนุสาวรีย์ในปี1873 จึงกลายเป็นว่าให้เป็นอนุสรณ์ชัยชนะในสงครามอีก2ครั้งที่ตามมานั้นเลย

[*!!~AlFeiLai~!!*]

ภาพแรกกับภาพที่สอง..แอบน่ากลัว T v T;

หือ..ปรัสเซียรบชนะฝรั่งเศสด้วยเหรอเนี่ย *ืv*ื